บันทึกการเดินทางเสี้ยวหนึ่งของชีวิต ครูบ้านป่านาดอย สู้ไม่ถอยงานการศึกษา ไม่ติดกับตำรับตำรา สอนภาษาด้วยใจใส่ความดี
วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2555
พานักเรียนไปมาวันนี้สนุกจังเลย
นอกเรื่องนิดหน่อยนะ
การทำน้ำยาล้างจานด้วยมะกรูด
วัสดุอุปกรณ์
1. หัวเชื้อน้ำยา (N 70) 1 กิโลกรัมๆประมาณ 80 บาท
2. สมุนไพรรสเปรี้ยว 3 กิโลกรัม (สับปะรด มะกรูด มะนาว ฯ)
3. เกลือ / ผง 1 กิโลกรัม
4. น้ำสะอาด 10 กิโลกรัม
*** ภาชนะที่ใช้กวนน้ำยาควรเป็นภาชนะก้นเรียบ เช่น กาละมัง ถังสี เป็นต้น ไม้พายควรมีขนาดยาวถึงก้นภาชนะเพื่อจะได้ง่ายต่อการกวน
ขั้นตอน / วิธีทำ
1. ล้างมะนาว มะกรูด และสับปะรดให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นๆ แล้วต้ม กรองเอาแต่น้ำ 3 กิโลกรัมผสมน้ำสะอาด 10 กิโลกรัม จะได้น้ำสมุนไพร 13 กิโลกรัม (หากอยากให้มีสีเหลืองใส่ขมิ้นในน้ำต้มสมุนไพรไปด้วย 1 ขีด)
2. นำ N 70 จำนวน 1 กิโลกรัมใส่ถังก้นเรียบ ค่อยๆ รินน้ำสมุนไพรใส่ถัง ใช้พายไม้กวนน้ำสมุนไพรให้ผสมเข้ากันกับ N 70 โดยกวนไปทางเดียวกันตลอดในทิศทางใดทิศทางหนึ่งเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดฟองมากโดยกวนประมาณ 15 นาที จนมีเนื้อเป็นสีขาวครีม
3. จากนั้นค่อยๆ เทน้ำสมุนไพรลงไปในถังในระหว่างที่กวน โดยโรยเกลือป่นลงไปด้วยเป็นระยะพร้อมๆ กัน จำนวน 1 กิโลกรัม คนให้เข้ากันจนเป็นสีขาวนวล
4. ตั้งทิ้งไว้ 6 ชั่วโมง ก่อนนำไปใช้งาน (หรือทิ้งไว้ 1 คืน)
5. จากนั้นนำไปใช้ล้างจาน ล้างคราบสกปรกต่างๆ ได้เลยค่ะ
วันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2555
ดอกหญ้า............
รกร้างข้างทางเดิน
ส่วนเกินคนเมินหมาง
มองผ่านด้วยใจจาง
หลีกไกลห่างอย่างชิงชัง
เห็นเป็นวัชพืช
ดั่งความมืดน่ากลัวจัง
ถากถางกี่คราครั้ง
ยังงอกงามอยู่ร่ำไป
ดั่งรักข้าในครานี้
ปวดฤดีนี่ไฉน
ไม่สมตรมเศร้าใจ
เขาผลักไสให้พ้นทาง
เห็นเป็นวัชพืช
ดั่งความมืดน่ากลัวจัง
ถากถางกี่คราครั้ง
ยังงอกงามอยู่ร่ำไป
ดั่งรักข้าในครานี้
ปวดฤดีนี่ไฉน
ไม่สมตรมเศร้าใจ
เขาผลักไสให้พ้นทาง
วันพุธที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2555
วันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555
ชีวิตพอเพียง
กินอยู่อย่างเรียบง่ายคล้ายเก่าก่อน
เราหลับนอนฝันดีมีความหมาย
เป็นชาวนาหน้าดำเดินตามควาย
สุขสบายมิกังวลเรื่องจนมี
ทำงานที่ เป็นสัมมา หาเลี้ยงชีพ
ไม่เร่งรีบ แข่งขัน ชั้นศักดิ์ศรี
ปลูกผักไว้ รอบบ้าน บรรดามี
รั้วกินได้ กินดี มีวิตามิน
ทั้งปลอดสาร ปลอดภัย ไม่ต้องซื้อ
นี่แหละคือ พึ่งตน คนท้องถิ่น
เศรษฐกิจ พอเพียง เลี้ยงชีวิน
อย่าดูหมิ่น ไร่นา มีมานาน
ชีวิตคน จนมี ล้วนสมมุติ
หากรู้หยุด พอเพียง เลี่ยงร้าวฉาน
แบ่งกันกิน กันใช้ สุขสำราญ
ไม่ต้องการ สุขใด ไหนอีกเลย
โดย : ดอกไม้ ปานพาน 12/11/2006
ทางเดิน...
เช้าแล้ว....
ทุกชีวิตเดินทาง
ทุกชีวิตต่างมีทางเดิน
ยากไหม.....
ยากหรือง่ายเดินทาง
มีขวากหนามบนทางเดิน
มีดอกไม้ริมทางเดิน
ดินนุ่มเท้า หินตำเท้า
ใบหญ้าเปียกลื่น
อาจมีเสียงหัวเราะ
อาจมีน้ำตาบนทางเดิน
ทักทายคนรู้จัก
ไต่ถามสารทุกข์
รัก....อบอุ่น
เหงา..ว้าเหว่บนทางเดิน
เดินทางต่อไป...จุดหมายอยู่ไม่ไกล
ไม่ผ่าน....
ฉันไม่ผ่านเกณฑ์ใจใครคนนั้น
ยังจำมั่นจากกันไปไม่บอกกล่าว
ยังเจ็บจำรู้สึกในเรื่องราว
เราเป็นดาวใช่เดือนเตือนตัวเอง...
ก้าวเดิน..จงกรม
ก้าวอย่างมีสติ ดำริรู้เท่าทัน
กายใจก้าวพร้อมกัน อัศจรรย์เกิดพลัง
ก้าวอย่างวางปลดปล่อย เดินตามรอยก้าวตามหลัง
ศาสดาพระพุทธัง สรณังพระธรรมา
ก้าวอย่างผู้ยอมหยุด ยอดมนุษย์แสวงหา
อนิจจัง อนัตตา เยื้องย่างพาผ่านพ้นภัย
ก้าวอย่างจิตรู้ตื่น จุดไฟฟืนสว่างไสว
เมตตาให้อภัย ฝึกตนไว้สง่างาม
ก้าวอย่างหาทางหลุด เพื่อวิมุติกิเลสสาม
โกรธหลงโลภติดตาม ฝึกก้าวข้ามห้วงอารมณ์
ก้าวอย่างสง่าศรี ชื่นชีวีมีสุขสม
ถ่ายถอนร้อนทุกข์ตรม คลายจากปมปัญญหาใจ
ดอกไม้ ปานพาน(ป้ากันนา)14 พฤษภาคม 2555ณ วัดดอยเวียง จ. ลำพูน
ดอกเก็จถะหวา
ปลูกดอกไม้ไว้ต้นหนึ่ง ไม่เคยซึ้งถึงคุณค่า
ปลูกรักด้วยใจปอง หวังเคียงครองเปี่ยมศรัทธา
ทุ่มเทด้วยใจคอย วันเดือนคล้อยกาลเวลา
กลิ่นหอมอวลตามลม ได้ชื่นชมสมเจตนา
ดอกขาวพราวพิสุทธิ์ ชื่อดอกพุดหรือเก็จถะหวา
ต้นกล้าเจ้ากร้านแกร่ง ฤๅร้อนแล้งไร้วาสนา
ขาดฝนคนใส่ใจ เป็นดอกไม้ธรรมดา
รกร้างหญ้ารกเรื้อ ผึ้งผีเสื้อมินำพา
ก้านใบยังชูช่อ ยืนต้นรอฝนหลั่งมา
ดินดอนรากหยั่งลง เจ้ายืนยงคงชีวา
ชุ่มเอยชุ่มน้ำฝน น้ำใจคนทักทายมา
คำคุ้นยังมิลืม ใจสุดปลื้มเคยสัญญา
อยากปลูกรักถนอม ชิดดมดอมเจ้าเก็จถะหวา
วาจาแท้คือลม หลงจ่อมจมเศร้าอุรา
รักแท้คืออะไร อยู่ที่ไหนกันเล่าหนา
สุขแท้คือการให้ รักห่วงใยร่วมฟันฝ่า
คิดถึงด้วยใจมั่น เข้าใจกันซึ้งสัจจา
ต่างคนทำหน้าที่ ไกลแสนลี้ห่างแค่ตา
แรงใจเปี่ยมพลัง ให้สมหวังทุกทิวา
ห่วงกันมั่นเสมอ ขอให้เธอเดินก้าวหน้า
รอยทางมากขวากหนาม ให้ฝ่าข้ามภัยนานา
ฝากย้ำดูแลตน ยามดั้นด้นผ่านมรรคา
ชีวิตแม้อดทน ควรผ่อนปรนรู้คุณค่า
พักเพียรเป็นกำลัง ยามสิ้นหวังและอ่อนล้า
ปลูกดอกไม้ไว้ต้นหนึ่ง ใจสุดซึ้งปรารถนา
ปลูกรักรอรื่นรส ถักร้อยบทอักษรา.....
สานฝันยุวเกษตรกร โดย Flower Panphan เมื่อ 10 กรกฎาคม 2012
ดินต้องดีมีชีวิตนะศิษย์รัก
ต้องฟูมฟักถนอมเอาใจใส่
อย่าหวังเพียงปลูกพืชหวังกำไร
เกษตรยุคใหม่ต้องยั่งยืน
แฝ่นดินนี้มีคุณบุญล้ำเลิศ
ได้ก่อเกิดกายาพารู้ตื่น
ได้อาศัยอยู่กินทุกวันคืน
ดินขมขื่นเพราะมนุษย์ยื้อยุดครอง
ทั้งหว่านไถขุดรอนถอนต้นไม้
เคมีใส่ยาพิษจิตเศร้าหมอง
โลภมากมายหมายได้ไม่คิดตรอง
น้ำลำคลองเปื้อนปนคนดื่มกิน
อนิจจาถึงเวลาโลกสับสน
ร้อนแล้งจนวิกฤตคิดถวิล
จะแก้ไขอย่างไรให้ชีวิน
ฟื้นแฝ่นดินโลกาพาร่มเย็น
ปณิธานสานฝันกันและแก้
จะดูแลดินดานสานฝันเห็น
รักแฝ่นดินแม้ว่าจะลำเค็ญ
จะขอเป็นหนึ่งรักจักจุนเจือ
อันเงินทองของนอกกายตายแล้วสูญ
ที่เพิ่มพูนคือความดีที่คงเหลือ
บนแฝ่นดินพี่น้องฝองญาติเครือ
ช่วยอุ่นเอื้อไอดินท้องถิ่นเรา...
สุขสันต์วันเกิดลูกสาว
กราบไตรรัตน์เทวารักษาเจ้า
ติดตามเฝ้าอวยชัยให้สุขสันต์
ในรอยทางชีวิตวิจิตรครัน
อุปสรรคฝ่าฟันได้สบาย
เป็นคนดีศรีสง่าพามิตรรัก
ได้รู้จักคบคุ้นปราชญ์ทั้งหลาย
ปราศจากภยันอันตราย
จุดมุ่งหมายสำเร็จเสร็จด้วยดี
ทั้งวรรณะ สุขะ พละเลิศ
สิ่งประเสริฐบันดาลใจสุขศรี
มีเงินทองคล่องจ่ายสบายดี
บารมีบุญเพิ่มเติมทุกวัน
จะเดินทางไปไหนไม่ติดขัด
พูนสวัสดิ์ใสสว่างและสร้างสรรค์
สงบงามความดีมากมีพลัน
ขออวยพรลูกฉันวันนี้เอย..
สองกรกฎา ปีที่ยี่สิบหกที่เจอหน้ากัน
สุขสันต์วันเกิดน้องซินลูกสาวแม่จ้า.... ^_^
คิดถึงเสมอ
คืนฝนพรำฉ่ำชื้นดึกดื่นหนาว
เสียงกรูกราวลมพัดสะบัดไหว
รักเคยชื่นคืนฝนพรมผืนใจ
คิดถึงคนบ้านไกลใจรอนรอน
ยังตราตรึงซึ้งรักภักดีหมาย
ยากจะคลายสายจิตชิดสมร
โอ้ยามนี้เธออยู่ไหนใจอาวรณ์
อยากจะอ้อนไออุ่นหนุนแขนเธอ
เราจากกันแยกทางไปต่างทิศ
ยอดมิ่งมิตรคิดถึงอยู่เสมอ
ในยามนี้เหงาใจบ้างไหมเออ
ฝากคำเพ้อถึงกันทุกวันไป
ป่านฉะนี้เป็นไฉนใคร่ขอถาม
มองฟ้างามยามฝนซาฟ้าสดใส
ยังหวงห่วงคอยหายอดดวงใจ
แม้ห่างไกลดั่งชิดสนิทครอง
มองทิวไม้งามตระการบานไสว
คงเหมือนใจรักนี้มีเราสอง
คิดถึงวันชิดใกล้ได้ประคอง
ดังลอยล่องวิมานตระการตา
รีบหวนกลับคืนมาที่ถิ่นเก่า
อย่ามัวเมางานหนักไม่รักษา
สุขภาพห่วงนักนะแก้วตา
รอเวลาพบกันขอสัญญา...
ความรัก
คือความรักจริงใจในวันก่อน
ผ่านบทกลอนสับสนปนอ่อนหวาน
ธรรมชาติสายลมร่มลำธาร
คือบทกานท์ขานขับไม่ลับเลือน
คือร้อยรสบทกวีที่ซึ้งค่า
ท่วงวาจาไพเราะเสนาะเหมือน
ดั่งดวงใจแน่แท้มิแชเชือน
ฝากรอยเตือนเยื่อนย้ำจำใส่ใจ
ยังห่วงใยเสมอแม้เธอห่าง
ใจบางบางคอยตามติดคิดหวั่นไหว
ยิ่งไกลห่างดั่งแยกฟ้าสุดหล้าไกล
ส่งดวงใจอิงแอบอยู่แนบเนา
ฝากดวงใจข้ามฟ้ามาใกล้ชิด
เคียงสนิท ปลอบขวัญในวันเหงา
ยินดีด้วยช่วยเสริมเติมดั่งเงา
ให้ย่างก้าวเจริญการเดินทาง
ห่วงไกลไกลใช่ห่างอย่างไม่สน
กลับเปปนดำเนินใช่เมินหมาง
บางเวลาคราไกลใครเลือนลาง
ใจจืดจางคอยเยือนย้ำเตือนใจ
เหตุเพราะรักล้นทรวงห่วงใยนี่
หากอยู่ดีไร้ทุกข์สุขสดใส
สมหวังในสิ่งหวังตลอดไป
สุขเพียงให้สมหวังดังต้องการ...
ตราไว้ในดวงจิต
16 สิงหาคม 2012
ตรารักซึ้งตรึงไว้ในดวงจิต
ยอดแห่งมิตรคิดถึงรำพึงหา
ลำนำรักนักฝันลั่นเพลงลา
สู้ฟันฝ่าหวังที่รักจักเข้า ใจ
หอมอันใดไหนเล่าเท่ากลิ่นกร ุ่น
อ่อนละมุนหวานล้ำเกินคำไข
รักลาร้างห่างเหทุ่มเทไป
ฝังฝากไว้กลางทรวงรักล่วงเล ย
หากรักแท้มั่นคงดำรงมั่น
มิหวาดหวั่นสิ่งใดใคร่เฉลย
รักลวงลมขมขื่นหลอกชื่นเชย
ใยมิเผยใจมาว่าพอที
ใจจะเจ็บเพียงไรใจเจ้าเอ๋ย
คำที่เคยพลอดพร่ำย่ำศักดิ์ศ รี..
ยอดแห่งมิตรคิดถึงรำพึงหา
ลำนำรักนักฝันลั่นเพลงลา
สู้ฟันฝ่าหวังที่รักจักเข้า
หอมอันใดไหนเล่าเท่ากลิ่นกร
อ่อนละมุนหวานล้ำเกินคำไข
รักลาร้างห่างเหทุ่มเทไป
ฝังฝากไว้กลางทรวงรักล่วงเล
หากรักแท้มั่นคงดำรงมั่น
มิหวาดหวั่นสิ่งใดใคร่เฉลย
รักลวงลมขมขื่นหลอกชื่นเชย
ใยมิเผยใจมาว่าพอที
ใจจะเจ็บเพียงไรใจเจ้าเอ๋ย
คำที่เคยพลอดพร่ำย่ำศักดิ์ศ
ทะเล
18 สิงหาคม 2012
ทะเลว่าลึก.......
ทะเลกว้างสุดฟ้าสุดตาเห็น
ทะเลเป็นผืนน้ำฉ่ำเย็นใส
ทะเลในรู้สึกลึกกว่าใด
ไม่เท่าใจคนลึกน่าตรึกตรอง
มิอาจรู้ทันเท่าห้วงมหรรณ์
รู้ใจกันตื้นเขินเพลินสุขสอง
หากใคร่ครวญสักนิดไม่คิดลอง
น้ำตานองยามร้างเขาจางใจ..
ทะเลสงบ.........
ทะเลงามยามสงบแดดพลบค่ำ
ลมเย็นฉ่ำชื่นรักจักหาไหน
เพลงสวาทหาดสวรรค์วันอุ่นไอ
พิงพักในวิมานสราญรมย์
อนิจจาหลงใจคืนได้ยาก
ต้องลำบากทนฝืนสุดขื่นขม
เขาตอกเหน็บเจ็บร้าวคราวระบม
ที่เชยชมชิดใกล้ไม่เหลียวแล
ทะเลคลั่ง.........
ทะเลคลั่งครวญครืนคลื่นกระหน่ำ
ความดื่มด่ำหมดไปใจเป็นแผล
ลมฝนมาพายุล้วนปรวนแปร
ใจคนแพ้เซซังพังทลาย
ฟ้าหลังฝนแจ่มใสไร้รู้สึก
เจ็บฝังลึกนึกไปน่าใจหาย
คงต้องมีสักวันเจ็บนั้นคลาย
คงจะคล้ายทะเลเวลางา
รักติดลบ (กลบทนายโรงลืมกรับ)
ต้องทำใจทำฉันใดรักติดลบ
คิดจะจบยิ่งอาลัยใจไม่หมด
เคยมีรักหวานซึ้งถึงคราลด
กลับหายหดร้างห่างจางเลยละ
เรื่องของเรื่องฉันเองใช่ใจเด็ด
แกร่งดังเพชรไม่แคร์เลิกกันนะ
ทั้งที่รู้รักถอยเขาปล่อยปละ
ไม่อาจจะตัดใจให้รักหยุด
โอละหนอโอละพ่อขอทีเถอะ
ไม่อยากเจอะเจอกันฤๅสิ้นสุด
ถึงอย่างไรก็เป็นแค่สมมุติ
จะตัดกุดก็บอกอย่าหลอกสิ
ใจหวั่นไหวใครลือหรือใครหลอก
มีคนบอกว่าเจ้าชู้เป็นคติ
มีรักโผล่ผุดดั่งใบไม้ผลิ
ด้วยชำนิชำนาญในการรัก
จะงอนง้อต่อเติมเสริมรักใหม่
เอาใจใส่ก็เป็นธุระหนัก
เขาไม่สนคนเก่าเศร้าใจนัก
เตรียมย้ายยักรักใหม่ใกล้ประชิด
โอ้กานดาน้ำตาตกอกใจช้ำ
นั่งพึมพำบ่นพลางอย่างไร้สิทธิ์
ธรรมดารักเศร้าเฉาชีวิต
อย่าหลงผิดติดปลัก* รักติดลบ*
วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2555
กลางหุบเขา
กลางหุบเขาราวป่ายอดไม้เขียว
ธารลดเลี้ยวระยิบพราวสายน้ำไหล
แสงแดดสาดผ่านม่านเมฆฟ้าอำไพ
เสียงหวีดหวิวพริ้วใบไผ่ ..สุขจริงนา
กลางเมืองกรุง ป่าคอนกรีต เด่นสง่า
เสียงรถรา อีกทึก วุนวายหนา
หมอกควันพิษ ปกคลุมเมือง ให้ระอา
เหลียวซ้ายขวามากผู้คน..เหมือนไ ร้คน
กลางเมืองกรุง ป่าคอนกรีต เด่นสง่า
เสียงรถรา อีกทึก วุนวายหนา
หมอกควันพิษ ปกคลุมเมือง ให้ระอา
เหลียวซ้ายขวามากผู้คน..เหมือนไ
ยืนอยู่คู่ชีวิต
แม้ลำบากยากแค้นทุกข์แสนเข็ญ
มุ่งบำเพ็ญสร้างก่อต่อเติมฝัน
อุปสรรคมากมีสารพัน
พร้อมมุ่งมั่นฟันฝ่าเดินหน้าไป
มุ่งบำเพ็ญสร้างก่อต่อเติมฝัน
อุปสรรคมากมีสารพัน
พร้อมมุ่งมั่นฟันฝ่าเดินหน้าไป
วันและคืนยืนอยู่สู้ชีวิต
กรรมลิขิตติดตัวมัวเหลวไหล
สติตามรู้ทันเท่าเศร้าสุขใจ
ช่างปะไรเสียบ้างว่างสบาย..
กรรมลิขิตติดตัวมัวเหลวไหล
สติตามรู้ทันเท่าเศร้าสุขใจ
ช่างปะไรเสียบ้างว่างสบาย..
...เศรษฐกิจพอเพียง....
ปลูกผักเลี้ยงปลา ทำนาทำสวน
เลี้ยงชีพพอควร เชิญชวนทำกิน
แบ่งปันความรู้ ทำอยู่ฐานถิ่น
เก็บออมทรัพย์สิน ชีวินสบาย
เลี้ยงชีพพอควร เชิญชวนทำกิน
แบ่งปันความรู้ ทำอยู่ฐานถิ่น
เก็บออมทรัพย์สิน ชีวินสบาย
....หัวใจต้นไม้.....
วันนี้สดใส ดอกไม้สดสี
งามเขียวขจี สวัสดีวันพุธ
ขอให้สุขสันต์ ยิ้มกันไม่หยุด
การงานเร่งรุด สำเร็จเสร็จไว
พุ่มหัวใจสามสี
เฟื่องฟ้า และชาทอง
เฟื่องฟ้า และชาทอง
พัก...เพียร....
แต่ละวันคือแปรใช่แน่นัก
รู้เพียร....รู้พักจักสุขสม
ธรรมดามีบ้างว่างอารมณ์
เบื่อหน่ายชมพักใจไว้ก่อนเอย...
คือชีวิต
มีสะดุดหกล้มหน้าจมคว่ำ
มีตกต่ำผิดหวังจิตพลั้งเผลอ
คือบทเรียนชีวิตต้องพบเจอ
น้ำตาเอ่อบางครายามอาวรณ์
เต้นตามบทรักหลงพะวงใฝ่
สุดแต่ใจวาดหวังตามสังหรณ์
ดั่งลีลาหลากรสบทละคร
เส้นทางจรสุขทุกข์คลุกเคล้ากัน
อนิจจังยังเคลื่อนเหมือนวงจักร
สุดจะหักเหกรรมนำผ่านผัน
ร้ายหรือดีเข้าพบรบประจัญ
ทุกคืนวันคงเวียนเปลี่ยนแปรไป
จะยิ้มสู้สู้ต่อมิท้อถอย
ย่างตามรอยคงมั่นมิหวั่นไหว
เพียรลบล้างดำด่างที่กลางใจ
เริ่มต้นใหม่ลุกสู้มวลหมู่มาร
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)